4 ขั้นตอนการสร้าง สวัสดิการบริษัท ให้โดนใจพนักงาน

การทำงานนอกจากเงินเดือนที่เป็นค่าตอบแทนพนักงานในแต่ละเดือนแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำงานในองค์กรก็คือ สวัสดิการบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ซึ่งในทุกวันนี้คนทำงานรุ่นใหม่เลือกเข้าทำงานจากสวัสดิการบริษัทขององค์กรนั้น ๆ และมีเงินเดือนเป็นปัจจัยรอง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าสวัสดิการมีส่วนช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาการเปลี่ยนงานของพนักงานได้

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความสำคัญของสวัสดิการบริษัท ว่ามีผลต่อการเติบโตขององค์กรอย่างไร รวมถึงการออกแบบสวัสดิการที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง 


สวัสดิการบริษัท สำคัญต่อความสำเร็จองค์กรยังไง?

สวัสดิการบริษัท คือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่พนักงานจะได้รับนอกเหนือจากเงินเดือน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่บริษัทหรือองค์กรมีขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวก เพิ่มกำลังใจในการทำงาน รวมทั้งยังสร้างความมั่นคงต่าง ๆ ในชีวิตให้กับพนักงาน 

ซึ่งการสมัครงานในปัจจุบันหลายคนเลือกมองหาบริษัทที่ตอบโจทย์ด้านสวัสดิการและเงินเดือนที่ไม่ต้องสูงมาก ซึ่งสวัสดิการที่คนทำงานยุคใหม่มองหาคือการใส่ใจเรื่องสุขภาพของพนักงาน รวมถึงการทำงานในรูปแบบไฮบริด เป็นต้น ในขณะเดียวกันหากบริษัทไหนที่ไม่มีสวัสดิการที่ดี น่าดึงดูดเพียงพอ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาการลาออกของพนักงานสูงมากขึ้นตามมาด้วย 

ทั้งนี้การประกาศสวัสดิการบริษัทไว้บนหน้าสมัครงานก็เป็นสิ่งที่จะช่วยดึงดูดให้คนจำนวนมากสนใจอยากเข้ามาสมัครงาน หรืออาจแนะนำสวัสดิการหลังการสัมภาษณ์งานเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สมัครและเพิ่มความสนใจอยากร่วมงานมากยิ่งขึ้น

สำหรับสวัสดิการบริษัท ที่พนักงานยุคนี้มองหา ได้แก่

  • โบนัสประจำปี
  • ประกันสังคม
  • ประกันสุขภาพสำหรับลูกจ้างและคนในครอบครัว
  • ประกันชีวิต
  • ค่าทำงานล่วงเวลา (OT)
  • วันหยุดตามที่กฎหมายกำหนด
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • รูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น

อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์บริหารทรัพยากรบุคคลให้เกิดประสิทธิภาพ
ได้ที่บทความ: สัญญาณเตือน ว่าองค์กรของคุณควรบริหารบุคลากรด้วยระบบ HRM


ขั้นตอนการออกแบบสวัสดิการบริษัท ให้มีประสิทธิภาพ

การจะมีสวัสดิการบริษัท ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และตรงใจพนักงาน สามารถเริ่มได้จากการออกแบบสวัสดิการที่ดี โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

1. สำรวจความต้องการของพนักงาน

การจะออกแบบสวัสดิการบริษัทที่ดีได้ ก่อนอื่นควรทำแบบสำรวจความคิดเห็นจากพนักงานในองค์กรว่าอยากได้สวัสดิการแบบไหนบ้าง เพราะการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานจะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดกรอบ ขอบเขต และวางงบประมาณให้เหมาะสมต่อความต้องการได้ 

สำหรับการสำรวจความต้องการของพนักงานจะแบ่งเป็น 2 แบบคือการพัฒนาสวัสดิการที่องค์กรมีอยู่แล้วและการพัฒนาสวัสดิการขององค์กรที่ก่อนตั้งใหม่ โดยแบ่งการออกแบบสำรวจ ดังนี้

กรณีพัฒนาจากสวัสดิการที่มีอยู่แล้ว

  • สำรวจว่าสวัสดิการแบบไหนที่พนักงานอยากให้มีเพิ่มเติมหรือปรับปรุง
  • สำรวจว่าสวัสดิการเดิมที่มี พนักงานได้ใช้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
  • ประเมินคะแนนความพอใจสวัสดิการต่าง ๆ ที่องค์กรมี

กรณีการออกแบบสวัสดิการขององค์กรใหม่

  • สำรวจสวัสดิการพนักงานพื้นฐานที่ทุกองค์กรควรมี
  • สำรวจความต้องการของพนักงานปัจจุบันว่าต้องการสวัสดิการอะไรมากที่สุด
  • มองความเป็นไปได้ของสวัสดิการและธุรกิจของเรา ว่าอะไรบ้างที่สามารถไปด้วยกันได้ เช่น ธุรกิจค้าขายที่ไม่สามารถ WFH ได้ อาจเพิ่มสวัสดิการค่าอาหารหรือค่าเดินทางสำหรับพนักงาน เป็นต้น

2. ตั้งเป้าหมาย และประเมินสวัสดิการที่มีอยู่

หลังจากที่รู้ถึงความต้องการของพนักงานแล้ว ต่อมาคือการตั้งเป้าหมายของการออกแบบสวัสดิการ ซึ่งการตั้งเป้าหมายจะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดขอบเขตได้ว่า อยากให้สวัสดิการไปในทิศทางไหน ตอบโจทย์พนักงานกลุ่มไหนที่สุด และเมื่อออกแบบสวัสดิการแล้วจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อองค์กรหรือธุรกิจได้อย่างไร 

ยกตัวอย่างเช่น หากองค์กรมีเป้าหมายเป็นพนักงานเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาจต้องออกแบบสวัสดิการที่เน้นการทำงานที่ยืดหยุ่น มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดูทันสมัย ตามเทรนด์ตลอดเวลา ซึ่งผลลัพธ์คือองค์กรสามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานได้ รวมถึงพนักงานสามารถทำผลงานได้ดีเพราะมี Work Life Balance ที่ดี 

นอกจากนี้องค์กรควรประเมินจากสวัสดิการที่มีอยู่ หรือหากเป็นองค์กรใหม่ควรประเมินว่าสวัสดิการอะไรบ้างที่จำเป็น และสามารถมีให้กับพนักงานเพื่อเป็นพื้นฐานการทำงาน ด้วยการพิจารณาจากแบบสอบถามของพนักงาน ว่าสวัสดิการไหนควรปรับปรุง และสวัสดิการไหนควรเพิ่มเติม โดยจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของการออกแบบสวัสดิการที่วางไว้ 

3. ออกแบบและปรับปรุงสวัสดิการ

เมื่อสำรวจความต้องการและกำหนดวัตถุประสงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการนำแผนสวัสดิการไปนำเสนอต่อผู้บริหาร เพื่อนำมาออกแบบเป็นสวัสดิการบริษัท ตามที่องค์กรเห็นสมควร ทั้งนี้อาจแบ่งสวัสดิการออกเป็นแต่ละหมวดหมู่ ได้แก่

สวัสดิการพื้นฐานที่จำเป็นต้องมี

  • ประกันสังคม
  • วันลาพักร้อน

สวัสดิการเพิ่มเติม

  • งบสำหรับการเรียนรู้ เช่น ซื้อหนังสือเดือนละเล่ม, ส่วนลดการเข้าคอร์สเรียนต่าง ๆ 
  • การทำงานที่ยืดหยุ่น สามารถทำงานแบบ WFH ได้
  • ค่าอาหารกลางวัน หรือค่าเดินทางกรณีเดินทางมาทำงานที่ออฟฟิศ

สวัสดิการสุขภาพ

  • ตรวจสุขภาพประจำปี
  • ประกันสุขภาพ

4. สื่อสารกับพนักงาน และสำรวจความพึงพอใจ

หลังจากที่ได้ออกแบบสวัสดิการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว องค์กรต้องประกาศให้กับพนักงานหรือผู้สมัครได้ทราบ โดยทางองค์กรอาจเลือกวิธีประกาศสวัสดิการให้พนักงานรับรู้ผ่านกิจกรรม Townhall หรือระหว่างกิจกรรม Outing หากเป็นการรับพนักงานใหม่ก็สามารถระบุในระหว่างสัมภาษณ์หรือช่วงปฐมนิเทศพนักงานใหม่ 

ซึ่งหลังจากที่เริ่มนำสวัสดิการมาปรับใช้แล้ว สิ่งที่เจ้าหน้าที่ HR ควรทำต่อมาคือการประเมินความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับปรุงสวัสดิการ หากพบว่าพนักงานที่แรงใจในการทำงานมากขึ้น และสามารถผลิตผลงานที่มีคุณภาพมากขึ้น ก็ถือว่าสวัสดิการนั้นประสบผลสำเร็จ แต่หากสวัสดิการที่ออกแบบไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ องค์กรควรพิจารณาปรับปรุงสวัสดิการดังกล่าว


สรุป

การมีสวัสดิการบริษัทที่ดี นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังใจในการทำงานให้กับพนักงานแล้ว ยังช่วยส่งเสริมต่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ทำให้สามารถดึงดูดคนเก่ง มีความสามารถให้เข้ามาร่วมงานและอยากอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ 

นอกจากการออกแบบสวัสดิการที่มีคุณภาพแล้ว อย่าลืมมองหาตัวช่วยสำหรับ HR ลดภาระงานบริหารทรัพยากรบุคคล ด้วย ATHM Core ที่ครอบคลุม HRM บริการที่ช่วยเปลี่ยนงานที่ยุ่งยากของ HR ให้เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save