การทำงานนอกจากเงินเดือนที่เป็นค่าตอบแทนพนักงานในแต่ละเดือนแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำงานในองค์กรก็คือ สวัสดิการบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ซึ่งในทุกวันนี้คนทำงานรุ่นใหม่เลือกเข้าทำงานจากสวัสดิการบริษัทขององค์กรนั้น ๆ และมีเงินเดือนเป็นปัจจัยรอง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าสวัสดิการมีส่วนช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปัญหาการเปลี่ยนงานของพนักงานได้
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความสำคัญของสวัสดิการบริษัท ว่ามีผลต่อการเติบโตขององค์กรอย่างไร รวมถึงการออกแบบสวัสดิการที่ดีต้องทำอย่างไรบ้าง
สวัสดิการบริษัท สำคัญต่อความสำเร็จองค์กรยังไง?
สวัสดิการบริษัท คือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่พนักงานจะได้รับนอกเหนือจากเงินเดือน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่บริษัทหรือองค์กรมีขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวก เพิ่มกำลังใจในการทำงาน รวมทั้งยังสร้างความมั่นคงต่าง ๆ ในชีวิตให้กับพนักงาน
ซึ่งการสมัครงานในปัจจุบันหลายคนเลือกมองหาบริษัทที่ตอบโจทย์ด้านสวัสดิการและเงินเดือนที่ไม่ต้องสูงมาก ซึ่งสวัสดิการที่คนทำงานยุคใหม่มองหาคือการใส่ใจเรื่องสุขภาพของพนักงาน รวมถึงการทำงานในรูปแบบไฮบริด เป็นต้น ในขณะเดียวกันหากบริษัทไหนที่ไม่มีสวัสดิการที่ดี น่าดึงดูดเพียงพอ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาการลาออกของพนักงานสูงมากขึ้นตามมาด้วย
ทั้งนี้การประกาศสวัสดิการบริษัทไว้บนหน้าสมัครงานก็เป็นสิ่งที่จะช่วยดึงดูดให้คนจำนวนมากสนใจอยากเข้ามาสมัครงาน หรืออาจแนะนำสวัสดิการหลังการสัมภาษณ์งานเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สมัครและเพิ่มความสนใจอยากร่วมงานมากยิ่งขึ้น
จากผลสำรวจของเว็บไซต์ People Keep พบว่า มีนายจ้างประมาณ 89% วางแผนปรับปรุงและพัฒนาสวัสดิการบริษัท ภายในปี 2025 โดยเฉพาะการเพิ่มความสมดุลในชีวิตการทำงานและเวลาส่วนตัว เพื่อป้องกันความเครียด และภาวะหมดไฟ เช่น วันลาพักร้อน หรือการทำงานแบบ WFH (Work from Home) เป็นต้น
สำหรับสวัสดิการบริษัท ที่พนักงานยุคนี้มองหา ได้แก่
- โบนัสประจำปี
- ประกันสังคม
- ประกันสุขภาพสำหรับลูกจ้างและคนในครอบครัว
- ประกันชีวิต
- ค่าทำงานล่วงเวลา (OT)
- วันหยุดตามที่กฎหมายกำหนด
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- รูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์บริหารทรัพยากรบุคคลให้เกิดประสิทธิภาพ
ได้ที่บทความ: สัญญาณเตือน ว่าองค์กรของคุณควรบริหารบุคลากรด้วยระบบ HRM

ขั้นตอนการออกแบบสวัสดิการบริษัท ให้มีประสิทธิภาพ
การจะมีสวัสดิการบริษัท ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และตรงใจพนักงาน สามารถเริ่มได้จากการออกแบบสวัสดิการที่ดี โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
1. สำรวจความต้องการของพนักงาน
การจะออกแบบสวัสดิการบริษัทที่ดีได้ ก่อนอื่นควรทำแบบสำรวจความคิดเห็นจากพนักงานในองค์กรว่าอยากได้สวัสดิการแบบไหนบ้าง เพราะการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานจะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดกรอบ ขอบเขต และวางงบประมาณให้เหมาะสมต่อความต้องการได้
สำหรับการสำรวจความต้องการของพนักงานจะแบ่งเป็น 2 แบบคือการพัฒนาสวัสดิการที่องค์กรมีอยู่แล้วและการพัฒนาสวัสดิการขององค์กรที่ก่อนตั้งใหม่ โดยแบ่งการออกแบบสำรวจ ดังนี้
กรณีพัฒนาจากสวัสดิการที่มีอยู่แล้ว
- สำรวจว่าสวัสดิการแบบไหนที่พนักงานอยากให้มีเพิ่มเติมหรือปรับปรุง
- สำรวจว่าสวัสดิการเดิมที่มี พนักงานได้ใช้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
- ประเมินคะแนนความพอใจสวัสดิการต่าง ๆ ที่องค์กรมี
กรณีการออกแบบสวัสดิการขององค์กรใหม่
- สำรวจสวัสดิการพนักงานพื้นฐานที่ทุกองค์กรควรมี
- สำรวจความต้องการของพนักงานปัจจุบันว่าต้องการสวัสดิการอะไรมากที่สุด
- มองความเป็นไปได้ของสวัสดิการและธุรกิจของเรา ว่าอะไรบ้างที่สามารถไปด้วยกันได้ เช่น ธุรกิจค้าขายที่ไม่สามารถ WFH ได้ อาจเพิ่มสวัสดิการค่าอาหารหรือค่าเดินทางสำหรับพนักงาน เป็นต้น
2. ตั้งเป้าหมาย และประเมินสวัสดิการที่มีอยู่
หลังจากที่รู้ถึงความต้องการของพนักงานแล้ว ต่อมาคือการตั้งเป้าหมายของการออกแบบสวัสดิการ ซึ่งการตั้งเป้าหมายจะช่วยให้องค์กรสามารถกำหนดขอบเขตได้ว่า อยากให้สวัสดิการไปในทิศทางไหน ตอบโจทย์พนักงานกลุ่มไหนที่สุด และเมื่อออกแบบสวัสดิการแล้วจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อองค์กรหรือธุรกิจได้อย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น หากองค์กรมีเป้าหมายเป็นพนักงานเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาจต้องออกแบบสวัสดิการที่เน้นการทำงานที่ยืดหยุ่น มีการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำงาน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดูทันสมัย ตามเทรนด์ตลอดเวลา ซึ่งผลลัพธ์คือองค์กรสามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานได้ รวมถึงพนักงานสามารถทำผลงานได้ดีเพราะมี Work Life Balance ที่ดี
นอกจากนี้องค์กรควรประเมินจากสวัสดิการที่มีอยู่ หรือหากเป็นองค์กรใหม่ควรประเมินว่าสวัสดิการอะไรบ้างที่จำเป็น และสามารถมีให้กับพนักงานเพื่อเป็นพื้นฐานการทำงาน ด้วยการพิจารณาจากแบบสอบถามของพนักงาน ว่าสวัสดิการไหนควรปรับปรุง และสวัสดิการไหนควรเพิ่มเติม โดยจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของการออกแบบสวัสดิการที่วางไว้
3. ออกแบบและปรับปรุงสวัสดิการ
เมื่อสำรวจความต้องการและกำหนดวัตถุประสงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการนำแผนสวัสดิการไปนำเสนอต่อผู้บริหาร เพื่อนำมาออกแบบเป็นสวัสดิการบริษัท ตามที่องค์กรเห็นสมควร ทั้งนี้อาจแบ่งสวัสดิการออกเป็นแต่ละหมวดหมู่ ได้แก่
สวัสดิการพื้นฐานที่จำเป็นต้องมี
- ประกันสังคม
- วันลาพักร้อน
สวัสดิการเพิ่มเติม
- งบสำหรับการเรียนรู้ เช่น ซื้อหนังสือเดือนละเล่ม, ส่วนลดการเข้าคอร์สเรียนต่าง ๆ
- การทำงานที่ยืดหยุ่น สามารถทำงานแบบ WFH ได้
- ค่าอาหารกลางวัน หรือค่าเดินทางกรณีเดินทางมาทำงานที่ออฟฟิศ
สวัสดิการสุขภาพ
- ตรวจสุขภาพประจำปี
- ประกันสุขภาพ
4. สื่อสารกับพนักงาน และสำรวจความพึงพอใจ
หลังจากที่ได้ออกแบบสวัสดิการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว องค์กรต้องประกาศให้กับพนักงานหรือผู้สมัครได้ทราบ โดยทางองค์กรอาจเลือกวิธีประกาศสวัสดิการให้พนักงานรับรู้ผ่านกิจกรรม Townhall หรือระหว่างกิจกรรม Outing หากเป็นการรับพนักงานใหม่ก็สามารถระบุในระหว่างสัมภาษณ์หรือช่วงปฐมนิเทศพนักงานใหม่
ซึ่งหลังจากที่เริ่มนำสวัสดิการมาปรับใช้แล้ว สิ่งที่เจ้าหน้าที่ HR ควรทำต่อมาคือการประเมินความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับปรุงสวัสดิการ หากพบว่าพนักงานที่แรงใจในการทำงานมากขึ้น และสามารถผลิตผลงานที่มีคุณภาพมากขึ้น ก็ถือว่าสวัสดิการนั้นประสบผลสำเร็จ แต่หากสวัสดิการที่ออกแบบไม่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ องค์กรควรพิจารณาปรับปรุงสวัสดิการดังกล่าว
สรุป
การมีสวัสดิการบริษัทที่ดี นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังใจในการทำงานให้กับพนักงานแล้ว ยังช่วยส่งเสริมต่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ทำให้สามารถดึงดูดคนเก่ง มีความสามารถให้เข้ามาร่วมงานและอยากอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ
นอกจากการออกแบบสวัสดิการที่มีคุณภาพแล้ว อย่าลืมมองหาตัวช่วยสำหรับ HR ลดภาระงานบริหารทรัพยากรบุคคล ด้วย ATHM Core ที่ครอบคลุม HRM บริการที่ช่วยเปลี่ยนงานที่ยุ่งยากของ HR ให้เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
