HR Trend 2026: เปิด 5 เทรนด์กำหนดอนาคต ของกลยุทธ์การบริหารบุคลากร

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การทำงานขององค์กรไทยหรือ HR Trend เผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาแทนที่ขั้นตอนเดิม ๆ ความคาดหวังของพนักงานที่สูงขึ้น หรือการแข่งขันด้านบุคลากรที่รุนแรงกว่าที่เคย สิ่งเหล่านี้ทำให้องค์กรไม่สามารถยึดติดกับแนวทางบริหารคนแบบเดิม ๆ ได้อีกต่อไป แต่ต้องมองหาแนวทางใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้ง “คน” และ “ธุรกิจ” พร้อมกัน ภายใต้ความท้าทายนี้ แนวโน้มด้าน HR กำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ และกำหนดทิศทางการบริหารบุคลากรในปีหน้าอย่างชัดเจน

บทความนี้จะมาพูดถึงความแนวโน้มและเทรนด์การทำงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2026 ที่องค์กรรวมถึงเจ้าหน้าที่ HR ต้องรู้ เพื่อวางแผนที่จะปรับตัวและรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมสร้างความโดดเด่นในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับองค์กรได้


แนวโน้มของ HR Trend 2026

ตลาดแรงงานไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภายใต้แรงขับเคลื่อนของ Digital Transformation ไม่วาจะเป็นเทคโนโลยี AI, วัฒนธรรมองค์กร และความคาดหวังของพนักงานที่พัฒนาไปอีกระดับ สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน HR และผู้นำองค์กร การตามให้ทัน ไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องมองให้ไกล เพื่อเตรียมพร้อมรับอนาคตของการบริหารบุคลากรอย่างแท้จริง 

การทำความเข้าใจแนวโน้ม HR ปี 2026 คือกุญแจสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ด้านคนที่แข็งแกร่ง ช่วยองค์กรวางแผนการสรรหาบุคลากรแบบแม่นยำ พร้อมทั้งรักษาคนเก่งให้อยู่กับบริษัทได้อย่างยั่งยืน 

1. AI มีบทบาทช่วยวางกลยุทธ์ด้านบุคลากรมากขึ้น

ใน HR trend 2026 ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะก้าวจากเครื่องมือพื้นฐานสู่การเป็น “ผู้ช่วยวางกลยุทธ์” คนสำคัญของฝ่าย HR อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ได้หยุดอยู่แค่การสแกน Resume หรือทำงานเอกสารซ้ำ ๆ อีกต่อไป แต่ AI จะถูกใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพนักงาน ตั้งแต่ประสิทธิภาพการทำงาน แนวโน้มการลาออก ไปจนถึงการคาดการณ์ความเสี่ยงของภาวะหมดไฟแบบเรียลไทม์ ทำให้ HR สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น และตอบสนองปัญหาได้ก่อนเกิดจริง

ในส่วนบริบทของไทย AI มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในการเป็นเทคโนโลยีนี้ช่วยคัดกรองผู้สมัครได้รวดเร็วขึ้นในรูปแบบของ Smarter Recruitment Platform สามารถสนับสนุนการทำงานระบบ HRD ในการออกแบบแผนฝึกอบรมเฉพาะบุคคลได้ดีขึ้น และลดงานเอกสาร เพื่อให้ HR มีเวลาไปทำงานเชิงกลยุทธ์อย่างการพัฒนาประสบการณ์พนักงาน สร้างวัฒนธรรมองค์กร และวางแผนบุคลากรระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

2. งาน HR จะเป็นรูปแบบ Data Driven

การเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของ AI ส่งผลต่อการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลมาใช้ในการประกอบการตัดสินใจและนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อวางกลยุทธ์ในด้านบุคลากร เช่น องค์กรเริ่มเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานตั้งแต่ขั้นตอนสรรหา, การพัฒนาทักษะ, การประเมินผล ไปจนถึงการดูแลรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรนานขึ้น เป็นต้น เมื่อมีข้อมูลที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพ  ทำให้ HR มองเห็นปัญหาเชิงลึก จะทำให้เจ้าหน้าที่ HR สามารถวางแผนได้อย่างแม่นยำ และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ Data Driven ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราการลาออกหรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผ่านการวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของพนักงานจริง ๆ องค์กรจึงสามารถออกแบบประสบการณ์พนักงาน (Employee Experience) ได้ตรงจุด ทำให้ HR ไม่เพียงทำหน้าที่จัดการงานบุคคล แต่เป็นฝ่ายที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์ธุรกิจด้วยข้อมูลที่ปฏิบัติได้จริงในทุกมิติ

3. บทบาทของ Workforce Planning ที่เน้นทักษะมากขึ้น

Workforce Planning หรือการวางแผนกำลังคน จะมีบทบาทมากขึ้นในปี 2026 โดยก้าวข้ามจากโมเดลแบบเดิมที่ยึดตามตำแหน่งงาน ไปสู่รูปแบบ “Skill-based Workforce Planning” ที่เน้นพิจารณาจากทักษะและความสามารถที่จำเป็นต่อธุรกิจมากกว่าการเติมเต็มตำแหน่งว่าง แนวคิดใหม่นี้ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างทีมจากพนักงานประจำ, ฟรีแลนซ์ และพนักงานชั่วคราว  ได้อย่างยืดหยุ่นตามโจทย์ธุรกิจที่เปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้องค์กรคล่องตัวขึ้น คาดการณ์อนาคตได้แม่นกว่า และบริหารต้นทุนบุคลากรได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การที่องค์กรใช้ Workforce Planning จะช่วยเปิดโอกาสให้พนักงานโยกย้ายภายในองค์กรได้ง่ายขึ้น สร้างทั้งความคล่องตัวและประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดต้นทุนได้มหาศาลเพียงเพราะจัดสรร “ทักษะ” ได้ตรงกว่า โดยการจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิผล HR จำเป็นต้องนำระบบ PMS ที่เป็นเครื่องมือสำหรับประเมินผลงานรูปแบบใหม่ เพื่อออกแบบกำลังคนที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้แบบแม่นยำและยั่งยืนกว่าที่เคย

4. Hybrid Work เป็นเทรนด์การทำงานแบบใหม่

แนวโน้มของ HR Trend 2026 หลายองค์กรได้จะค่อย ๆ ยกเลิกการทำงานแบบ Work From Home โดยจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานในรูปแบบ Hybrid Work แทน โดยจะเป็นรูปแบบการทำงานสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่เน้นผลลัพธ์ของงานมากกว่าระยะเวลาทำงาน โดยจะเป็นการผสมผสานระหว่างการทำงานภายในออฟฟิศ และทำงานแบบ Work From Home ในบางวัน เพื่อเพิ่มอิสระในการทำงานของพนักงาน

โดย Hybrid Work จะเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่องค์กรใช้เพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้อยากมาร่วมงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้พนักงานทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันอย่างราบรืน เกิดการประสานงานที่มีคุณภาพระหว่าง พนักงานในออฟฟิศและพนักงานที่ทำงานที่บ้าน รวมถึงการช่วยเพิ่ม Work Life Balance ให้กับพนักงานมากยิ่งขึ้น

5. บทบาทของผู้นำทีม ที่เปลี่ยนไป

การสร้าง Employee Experience (EX) ที่ดีขึ้นกำลังกลายเป็นกลยุทธ์หลักของ Hr Trend 2026 เพราะประสบการณ์ที่พนักงานได้รับตั้งแต่สมัครงาน วันที่เข้าทำงาน การประเมินผลงาน ไปจนถึงวันที่ออกจากบริษัท ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรและคุณค่าที่องค์กรมีต่อบุคลากรอย่างแท้จริง องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Employee Experience จะออกแบบทุกจุดให้ราบรื่น และเป็นกลางที่สุด เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการสนับสนุนและเห็นคุณค่าจากบริษัทในทุกขั้นตอนของเส้นทางการทำงาน

สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก Culture Amp ปี 2025 ระบุว่าพนักงานไทยกว่า 74% มีระดับการมีส่วนร่วมในงานอยู่ในระดับสูง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมการทำงานที่ดี มีผลโดยตรงต่อการรักษาคนเก่งและเพิ่มความผูกพันในองค์กร HR จึงต้องออกแบบประสบการณ์การทำงานแบบรอบด้าน ตั้งแต่การรับฟังเสียงพนักงาน การพัฒนาระบบดูแลความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) ไปจนถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกมีคุณค่าและมีความหมายในการทำงาน เพราะเมื่อพนักงานมีความสุขและรู้สึกถึงเป้าหมายอย่างแท้จริง และส่งผลต่อประสิทธิภาพงานและคุณภาพการบริการลูกค้าในท้ายที่สุด.


สรุป

โดยภาพรวม HR Trend 2026 จะเห็นได้ชัดว่าอนาคตของการบริหารบุคลากรจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี, ข้อมูล, ทักษะ และประสบการณ์ของพนักงานเป็นศูนย์กลาง องค์กรที่ปรับตัวทันจะสามารถพัฒนากลยุทธ์ HR ที่ตอบโจทย์ทั้งเป้าหมายธุรกิจและความต้องการของคนทำงานยุคใหม่ได้พร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI วางกลยุทธ์บุคลากร การขับเคลื่อนงานแบบ Data Driven การวางแผนกำลังคนโดยยึดทักษะเป็นหลัก การพัฒนา Hybrid Work หรือการสร้าง Employee Experience ทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันได้เหนือคู่แข่งในปี 2026 และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว

สำหรับองค์กรไหนที่ต้องการสร้างความได้เปรียบและปรับตัวเข้ากับ HR Trend 2026 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำ ATHM โปรแกรมสำหรับ HR ที่มาพร้อมโซลูชันมากมายเพื่อยกระดับงานบริหารทรัพยากรบุคคล ไม่ว่าจะเป็นระบบ HRM, ระบบ HRD, ระบบ PMS และ Smarter Recruitment Platform เพื่อให้พนักงานและองค์กร สามารถเติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน ในยุคดิจิทัล

Footer - ระบบ HRM และ ระบบ HRD ครบวงจร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save